การเริ่มต้นลงทุนตลาด forex สิ่งที่มือใหม่ต้องรู้

850

การเทรด forex เป็นสิ่งที่นักลงทุนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จึงถูกตั้งคำถามว่าตลาดนี้สามารถทำกำไรได้จริงไหม แต่ในปัจจุบันนี้ก็มีตัวอย่างของนักเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จเกิดขึ้นมากมาย ทำให้เทรดเดอร์ยอมรับว่า ตลาด forex นี้สามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักลงทุนได้และยังสร้างกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ สามารถทำเป็นอาชีพหลักได้เลย เพียงแค่คุณมีวินัยและความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานของตลาดforexก่อนที่จะเทรด และในบทความนี้เราจะมาแนะนำสำหรับนักเทรดเดอร์มือใหม่ว่าสิ่งที่คุณควรรู้และต้องทำความเข้าใจก่อนการเริ่มต้นลงทุนในตลาดforexว่ามีอะไรบ้าง

 

ในวันนี้เราจะมาแนะนำมือใหม่ว่าสิ่งที่ควรรู้ก่อนการเริ่มต้นลงทุน มีอะไรบ้าง

เราจะมีเทคนิคง่ายๆมาให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจก่อนที่ท่านจะลงทุน ไม่ว่าคุณจะลงทุนทำอะไรคุณก็ต้องศึกษาพื้นฐานในสิ่งที่คุณจะลงทุนก่อนเสมอ เพื่อให้สิ่งที่เราจะทำการลุงทุนได้ประสบความสำเร็จและเป็นไปตามที่เราต้องการ เราได้เลือกเอาเทคนิคพื้นฐานมาให้ทุกท่านได้ศึกษา4 เทคนิคง่ายๆต่อไปนี้ ก็คือ

  •  โปรแกรมเทรด forex

  •  วิธีการส่งคำสั่งซื้อ-ขาย

  •  การคำนวณกำไร-ขาดทุน

  •  กราฟ forex

 

 

โปรแกรมเทรด forex

สำหรับนักเทรดมือใหม่ จะต้องศึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมเทรดว่ามีโปรแกรมไหนบ้าง เราจะเลือกแบบไหนที่จะเข้ากับสไตล์การเทรดของเราดีที่สุด ส่วนมากนักเทรดเดอร์มักจะมีปัญหาในการเลือกโปรแกรมและมักตั้งคำถามว่า ”โปรแกรมเทรด forex ไหนดีที่สุด” เพราะในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมาก็มีโปรแกรมเทรดใหม่ๆเกิดขึ้นเรื่อยๆจึงเป็นตัวเลือกให้เทรดเดอร์ได้ลองใช้กันอย่างมากมาย ตัวอย่างเช่น โปรแกรม Meta Trader4 (MT4) Meta Trader5 (MT5)  CTrader  NinjaTrader eSignal ProRealTime เป็นต้น โปรแกรมที่กล่าวมานี้ คือตัวอย่างโปรแกรมที่นักเทรดเดอร์นิยมใช้ในการเทรดมากที่สุดในโลกและเป็นโปรแกรมที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในปี 2022 นี้

ในบทคาวมนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับเจ้าโปรแกรมเทรดฟอเร็กซ์(forex) ที่เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมเทรดที่นิยมใช้กันมากที่สุดก็คือ โปรแกรมเทรด: MetaTrader ซึ่งเจ้าตัวโปรแกรมนี้ได้ถูกคิดค้นโดยบริษัท MetaQuotes ในปี พ.ศ.2005 ซึ่งก็ได้รับการพัฒนามาเป็นเวลามากกว่า10 กว่าปีแล้ว จนในปัจุบันได้มีตัวเลือกให้เราได้ใช้งานในโปรแกรมเทรดจาก MetaQuotes Corp อยู่2 ตัวเลือกด้วยกัน คือ Meta Trader4 (MT4)และ Meta Trader5 (MT5)  แต่นี้ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่จะพาเราไปเทรดในตลาดฟอเร็กซ์(forex)แต่ยังมีอีกมากมายหลายโปรแกรมให้เราได้เลือกใช้งาน แต่วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับเจ้าโปรแกรม MT4 และ MT5 ที่เป็นที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายในอันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้

 

โปรแกรมเทรด : Meta Trader 4

มาเริ่มต้นกันด้วยเจ้าโปรแกรม MetaTrader4 หลายท่านคงสงสัยว่านักเทรดเดอร์ทั้งหลายทำไมต้องเลือกใช้โปรแกรมนี้ ขอพูดอีกเสียงหนึ่งเลยว่า เจ้าโปรแกรมนี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องการส่งคำสั่งซื้อ-ขาย เจ้าโปรแกรมนี้เขาสามรถกดส่งคำสั่งได้ง่ายๆเพียงคลิกเดียว ด้วยเรื่องความเสถียรของโปรแกรมได้มีการให้บริการในเกือบทุกระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็น iOS,Androidหรือ WinDows และไม่ว่าคุณจะใช้งานผ่านทางโปรแกรมไหนก็จะยังเสถีรและมีประสิทธิภาพมากเช่นกัน

ในเรื่องการใช้งาน MetaTrader คุณสามารถตั้งคำสั่ง stop Loss,Pending,TakeProfitและTrailing stop พร้อมๆกันได้เลยเพื่อใช้ให้คุณได้ใช้กลยุธไปในหลายๆรูปแบบ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้งานได้ฟรี ดาว์โหลดได้ง่ายดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ไม่ซับซ้อน แล้วยังมีเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์อีกจำนวนมาก คุณสามารถเปิดบัญชีทดลอง หรือจะเปิดเป็นบัญชีจริง เพื่อการเริ่มต้นการใช้งานโปรแกรมเทรด:MetaTrader4 ได้เลย

 

โปรแกรมเทรด : Meta Trader5

สำหรับเจ้าตัวโปรแกรม Meta Trader5 นี้ ได้ถูกพัฒนามาจาก Meta Trader4 ในเรื่องความพัฒนาแน่นอน การใช้งานจะต้องใช้งานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีรูปแบบคำสั่งที่หลากหลายยังมาพร้อมกับอินดิเคเตอร์ที่มากขึ้นตามยุคตามสมัยเป็นโปรแกรมที่ใหม่เข้ากับนักเทรดเดอร์สมัยใหม่ได้ดีที่สุด และยังสามารถรองรับการเทรดสกุลได้หลากหลาย แถมเจ้าโปรแกรมตัวนี้ยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มโปรแกรมเทรดforexที่ดีที่สุดที่นักเทรดเดอร์นำไปใช้ในการเทรดมากมาย จึงเป็นโปรแกรมที่มีความน่าเชื่อถือได้มากที่สุด ถ้าคุณต้องการเครื่องมือที่ดีแพลตฟอร์มที่เหนือชั้นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เจ้าโประแกรมMetaTrader5สามารถเป็นอาวุธที่จะตอบโจยท์ให้คุณได้ดีที่สุดอย่างแน่นอน คุณสามารถเปิดบัญชีจริงโดยตรงกับโบรกเกอร์XM ได้ที่นี้คลิกเลย

 

วิธีการส่งคำสั่งซื้อขาย

แน่นอนว่าการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์forexนี้ จะต้องมีการส่งคำสั่งซื้อ-ขาย และเทรดเดอร์แต่ละท่านก็จะเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับตัวเอง ในแต่ละโปรแกรมก็จะมีขั้นตอนคำสั่งที่แตกต่างกันออกไป และสำหรับนักเทรดเดอร์มือใหม่คุณจะต้องทำความเข้าใจในคำสั่งของแต่ละโปรแกรมที่คุณใช้งาน เริ่มแรกเลยเมื่อทุกท่านเข้ามาในตลาดforex จะสั่งเกตเห็นคำว่า Buy กับ Sell แล้ว2คำนี้แตกต่างกันยังไง ใช้งานแบบไหนโอเคเราจะมาทำความเข้าใจง่ายๆกันเลย

โดย คำว่า Buy นี้ เราจะกดเปิดก็ต่อเมื่อที่เราคิดว่าราคาจะขึ้นจากจุดที่เรา Buy  ส่วนคำว่า Sell  ก็คือตรงกันข้ามกันเลย เราจะกดเปิดsellก็ต่อเมื่อที่เราคิดว่าราคาจะลง

ดั้งนั้น Buy กับ Sell จะเป็นตัวกำหนดทิศทางในการเปิดออเดอร์ของเรา และเมื่อเราเปิดออเดอร์ BuyหรือSellได้กำไรหรือต้องการตัดการขาดทุน ก็คือให้เรากดเปิดที่ Position ก็คือการกดส่งคำสั่งนั่นเอง และแน่นอนว่าจะต้องมีคำสั่งอีกมากมายที่จะต้องศึกษา วันนี้จะพาทุกท่านมารู้จักกับคำสั่งพื้นฐานในการเทรดForex กัน

 

 คำสั่งที่ใช้ในการเทรดพื้นฐาน

  1. Market Order –  ก็คือ ออเดอร์ที่ Buy หรือ Sell  ในราคาของตลาดปัจจุบัน
  2. Limit Order  –  ก็คือ ออเดอร์ที่ถูกแทนที่ด้วย Buy หรือ Sell  จาราคาล่วงหน้า
  3. Stop Order  –  ออเดอร์ที่ถูกแทนที่จากราคาล่วงหน้าเช่นกัน
  4. Stop Loss  –  จุดหยุดการขาดทุน
  5. Target/ Take Profit  –  ราคาเป้าหมายหรือกำไรที่คุณต้องการ

 

การคำนวณกำไร-ขาดทุน

วิธีคิดกำไรและขาดทุน กำไร=การซื้อถูกขายแพง  ขาดทุน=การซื้อแพงขายถูก  คำนวณตามสมการง่ายๆ กำไรขาดทุน = Lot × ระยะกำไรขาดทุน   เทรดเดอร์ที่มีความสามารถในการเทรดและความเข้าใจในตลาด จะต้องสามารถคำนวณต้นทุนเรื่องธุรกรรมในตลาดforexด้วย ความเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยนักลงทุนสามารถควบคุมความเสี่ยงกว่านักลงทุนทั่วไป แต่นักลงทุนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญไปกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากเกินไปแล้วจะสนใจเพียงแค่ตัวเลขกำไร-ขาดทุนที่แพลตฟอร์มต่างๆคำนวณมาให้ ในบทความนี้จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับการคำนวณพื้นฐานแบบง่ายๆ

เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณเรามาทำความรู้จักกับขนาดของ Lot แต่ละประเภทถ้าเมื่อเราเทียบต่อการเคลื่อนที่ของราคาทุกๆ 1 Pip จะคิดเป็นเงินกี่ดอลลาร์สหรัฐ(USD)

 Standard Lot : 1 Lot  ถ้าราคาเคลื่อนที่ทุก 1 Pip จะได้กำไรหรือขาดทุน =  10  ดอลลาร์สหรัฐ(USD)

Mini Lot : 1 Lot  ถ้าราคาเคลื่อนที่ทุก 1 Pip  จะได้กำไรหรือขาดทุน  =  1 ดอลลาร์สหรัฐ(USD)

Micro Lot : 1 Lot  ถ้าราคาเคลื่อนที่ทุก 1 Pip จะได้กำไรหรือขาดทุน  =  0.1 ดอลลาร์สหรัฐ(USD)

Nano Lot : 1 Lot  ถ้าราคาเคลื่อนที่ทุก 1 Pip  จะได้กำไรหรือขาดทุน  =  0.01 ดอลลาร์สหรัฐ(USD)

เราจะขอยกตัวอย่างการคำนวณของ Standard Lot เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างที่ 1     ถ้าเราใช้ Lot  0.2 เปิดออเดอร์ และได้มีกำไร 50 Pips จะคิดเป็นเงินได้เท่าไหร่?

วิธีการคำนวณ คือ 0.2 ×(50×10) = 100

คำตอบ = กำไร 100 (USD)

ตัวอย่างที่ 2   ถ้าใช้ Lot  0.5 เปิดออเดอร์ และมีกำไร 150 Points คิดเป็นเงินได้เท่าไหร่?

วิธีการคำนวณ คือ 0.5×150 = 75

คำตอบที่ได้ =  75 (USD)

ระยะกำไรขาดทุน ถ้าเรารู้ว่าหน่วยเป็น Pip ให้แปลงหน่วยเป็น Point ก่อน โดยการเอามาคูณด้วย 10  [ 1 Pip  =  10  Point ]

จากตัวอย่างด้านบน ทุกท่านจะสังเกตเห็นว่า ในตัวอย่างที่2 หน่วยของกำไรเป็น Point แล้ว จึงไม่ต้องเอาไปคูณกับ 10 อีก เราสามารถนำเอา Point มาคูณกับ Lot ได้เลย ดังนั้นไม่ว่าคุณจะใช้การคำนวณแบบตัวอย่างที่1หรือ2ก็จะขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่คุณใช้งานเป็นหลัก และนี้ก็คือวิธีการคำนวณแบบง่ายๆไม่ยุ่งยาก เน้นการใช้งานได้จริง การคำนวณแบบง่ายๆนี้ก็จะช่วยให้ทุกท่านสามารถคำนวณว่าเราจะขาดทุนเท่าไหร่จะได้กำไรเท่าไหร่สามารถช่วยในเรื่องการควบคุมความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้

 

กราฟ forex

นักลงทุนหลายท่านคงคิดว่าการเทรดforexไม่ได้ยากอะไร ดูกราฟขึ้นลงก็สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ แล้วทำไมจะต้องไปศึกษาหาความรู้อะไรให้มากมายทำให้ปวดหัวกันเปล่าๆ เราต้องคิดใหม่เพราะการศึกษาเรื่อง กราฟforex การเก็บเกี่ยวความรู้ต่างๆจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนมาก ทั้งนี้การใช้กราฟก็ยังไม่มีสูตรไหนตายตัวหรือดีที่สุด ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของแต่ละคน ทุกคนจะมีเทคนิคและระบบการเทรดในการทำกำไรที่แตกต่างกันออกไป สำหรับนักเทรดเดอร์ที่เข้ามาสู่งวงการเทรดได้ไม่นานอาจจะดูเหมือนยากและมีความซับซ้อน และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเริ่มต้นเทรดไม่ได้ง่ายเลย จะบอกทุกท่านว่า “ทุกๆการลงทุนมีความเสี่ยง แต่การที่เราเสี่ยงโดยไม่มีความรู้เลยนั้นเสี่ยงที่สุด” แต่ถ้าเราเริ่มต้นด้วยการมีความรู้ ก็จะช่วยให้เรารู้ถึงวิธีการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับนั้นรับรองว่าคุ้มค่าต่อการที่คุณพยายามอย่างแน่นอน และในปัจจุบันนี้มีเครื่องมือตัวช่วยวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างมากมายที่จะช่วยให้เทรดเดอร์มือใหม่กลายเป็นเทรดเดอร์มือโปรได้ง่ายยิ่งขึ้น เครื่องมือเหล่ายังจะช่วยให้คุณได้เห็นถึงมุมมองของตลาดและดูความเคลื่อนไหวต่างๆในตลาดforexได้

ถึงแม้ว่าการวิเคราะห์ในเรื่องของปัจจัยพื้นฐานจะช่วยให้นักเทรดเดอร์สามารถเก้งกำไรในอนาคตได้ แต่ทุกท่านเชื่อไหมว่า การดูกราฟทางเทคนิค สามารถที่จะบอกอนาคตได้ดีกว่าการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเสียอีกโดยเฉพาะท่านที่ต้องการเทรดforexแบบหวังผลกำไรหรือต้องการอยู่รอดในตลาดแห่งนี้ การดูกราฟทางเทคนิคจึงมีความสำคัญมาก เปิดบัญชีจริงได้ที่นี่

 

เปิดบัญชีกับ โบรกเกอร์ XM ที่นี่

รายละเอียดเพิ่มเติม www.xm.com